1.ข้อมูลพื้นฐานประชากรศาสตร์ และเหตุการณ์ต่างๆบนโลก
เรียบเรียง โดย อ.เขตต์ โหรศิลป์
ข้อมูลพื้นฐานเป็นเรื่องสำคัญต่อการคิดและการวางแผนในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ ในสังคมโลกต่อไป
10 ประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก
| 1. China | 1,369 millions | 19.84% of world |
| 2. India | 1,201 millions | 16.96% of world |
| 3. United States | 304 millions | 4.56% of world |
| 4. Indonesia | 232 millions | 3.47% of world |
| 5. Brazil | 187 millions | 2.80% of world |
| 6. Pakistan | 163 millions | 2.44% of world |
| 7. Bangladesh | 159 millions | 2.38% of world |
| 8. Nigeria | 148 millions | 2.22% of world |
| 9. Russia | 142 millions | 2.13% of world |
| 10. Japan | 128 millions | 1.92% of world |
หลังจากขึ้นศตวรรษใหม่ สถิติคาดการณ์ประมาณว่า เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ปี ค.ศ. 2025 ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 8,500 ล้านคน(แปดพันห้าร้อยล้านคน) และเมื่อถึงเข้าสู่ปี ค.ศ.2050 ประชากรโลก
ของเราจะมีเพิ่มมากขึ้น 12,000 ล้านคน(หนึ่งหมื่นสองพันล้านๆคน) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนในรุ่นเรา รุ่นลูกใกล้เรานี้ คือ ผู้ที่เกิดภายหลังจากปี ค.ศ.1990เป็นต้นมาจะต้องประสบพบกับปัญหาจำนวนประชากรโลกอย่างแน่นอน นับจากปี ค.ศ. 2000 นี้ประชากรโลกส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในทวีปเอเซีย เป็นส่วนใหญ่ โดย มี 2 ประเทศที่มีประชากรมากกว่า 1,000 ล้านคน (พันล้านคน) ได้แก่
1)ประเทศจีน
2)ประเทศอินเดีย
ซึ่งทั้งสองประเทศล้วนอยู่ในเอเชียและมีความใกล้ชิดกับประเทศไทยของเราเป็นอย่างมากและด้วยจำนวนประชากรขนาดนั้นนักชีววิทยาและนักโภชนาการคำนวณแล้วเห็นได้ว่า ประชากรโลกประมาณ 85%จะมีอาหารไม่เพียงพอต่อการดำรงค์ชีวิต จะทำให้เกิดการแย่งชิงและอาจจะหลีกเลี่ยงสงครามเพื่อแย่งอาหารและแหล่งที่อุดมสมบูรณ์เอาไว้ไม่ได้
ในฐานะที่เราเป็นคนไทยและต้องการจะเป็นผู้ที่ผลิตอาหารป้อนให้แก่โลกแต่เราจะเห็นว่าตั้งแต่ปีพ.ศ.2550เป็นต้นมาอาหารทางการเกษตรของเรามีราคาตกต่ำและขึ้นๆลงแก้ไข
ปัญหาราคาอาหารและสินค้าทางการเกษตรไม่ได้สักทีเพราะทั่วโลกต่างก็เริ่งผลิตอาหารด้วยการทำลายป่าไม้และด้วยการทำลายทรัพยากรไม่มีการจัดระบบการปลูกพืชที่ดีทำให้ดิน เกิดการเสื่อมสภาพ และสภาวะโลกร้อนที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สภาพอากาศโลกแปรปรวน
ข้อคิดเห็น
ประเทศไทยของเราโดยสภาพภูมิศาสตร์เหมาะกับที่จะผลิตอาหาร และเป็นพื้นที่ที่มีความชุ่มน้ำอุดมสามบูรณ์ แต่ในปัจจุบัน จากปัญหาภัยธรรมชาติในปี 2552 เป็นปีที่ประเทศไทยประสบสภาวะภัยแล้งที่สุดในรอบหลายๆปี แต่ในปี 2553 ประเทศไทยกลับประสบปัญหาน้ำท่วมใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 40 ปี และในปี 2554 ประเทศไทยประสบสภาวะการหนาว ที่สุดในรอบ 30 ปีและคาดว่าจะเข้าสู้สภาวะแล้งจัด
ด้วยนโยบายที่เราต้องการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหนัก ยิ่งทำเราเราละเลยสินค้าทางการเกษตร ในการผลิตส่วนใหญ่เราต้องพึ่งพาสารเคมีที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลักเพื่อให้ได้ให้ผลผลิตที่ดีจะได้นำออกขายยังตลาดต่างประเทศให้ได้มาตราฐานสากล แต่เราลืมและละเลยระบบนิเวศ การปลูกพื้นเศรษฐกิจแบบพอเพียงตามแบบเศรษฐกินพอเพียง ที่ใช้ธรรมชาติ บำบัดและรักษาธรรมชาติ
เราก็พัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและกำลังทำลายดินและน้ำของเราบวกไปในราคาต้นทุนที่ถูกและขายสินค้าทางการเกษตรของเรา ไปแลกสินค้าเทคโนโลยี่ที่ฟุ่มเฟือยจากต่างประเทศที่มีเทคโนโลยีมากกว่า
จากเหตุผลการค้าเสรีและจากการเปิดตลาดข้อมูลข่าวสารในโลก ทำให้่เราเป็นเพียงตลาดสินค้่าฟุ่มเฟือยของโลกมากกว่าการส่งเสิมตลาดเทคโนโลยี่การผลิตที่แท้จริง อย่าง เกาหลี และญี่ปุ่น
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่า เราเป็นเพียงผู้รับและนำคุณค่าต้นทุนการผลิตอาหารที่ต่ำกว่าไปแลก กับความรู้ทางเทคโนโลยี่การผลิต มือถือหนึ่งเครื่องราคา เท่ากับที่นาที่ชาวนาลงแรงและหวังพึ่งธรรมชาติมากกว่าการพัฒนาเทคโนโลยี่การผลิต อย่างน้อยหนึ่งไร! ข้าวเกวียนละเท่าไรเมื่อเที่ยบกับมือถือหนึ่งเครื่อง
และในปัจจุบันที่ประเทศต่างๆกำลังเร่งวิจัยผลิตพืชผลที่มีคุณภาพ มีความเจริญรุดหน้าไปไกลเกินกว่าที่เราจะตามทันถ้าเรายังไม่ย้อนกลับมามองตัวเองในปัจจุบัน อเมริกากำลังนิยมกลับมารับประทานอาหารประเภทผักผลไม้ และมีคุณค่าช่วยลดสภาวะโลกร้อน กลับมาใช้ถุงที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ กลับมาผลิตยารักษาที่มาจากธรรมชาติ เน้นการรักษาที่ย้อนกลับไปสู่ต้นทุนเดิมตามธรรมชาติ
ข้อเสนอแนะ
เราไม่ได้สร้างในสิ่งที่เราถนัดให้เป็นที่ประจักษ์กับสายตาชาวโลกคนไทยเพราะเราไม่ได้ผลิตนักวิชาการทางการเกษตรการรักษา วิจัยและพัฒนาภูมิความรุ้ในสิ่งที่เราถนัดและอยู่ใกล้ตัวเรา ไม่ว่าจะ การเกษตรเป็นหลักสำคัญ
จากนี่ต่อไปด้วยจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น อาหารที่ขาดแคลนการผลิตที่เสียหายจากภัยธรรมชาติจะล้วนทำให้ประเทศต่างๆเริ่มประสบปัญหาในประเทศ ในปี 2555 เป็นต้นไปประเทศต่างๆจะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศเพราะประชาชนเกิดความลำบากในการดำเนินชีวิต สินค้าที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตมีราคาสูง ช่องว่างกว้างและรุนแรงระหว่างรายรับและรายจ่าย
ซึ่งปัจจุบันเราก็กำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายๆประเทศที่เป็นผลจากความคลาดแคลน เช่น อียิปต์ ลิเบีย และประเทศในตะวันออกกลางฯ
จากเหตุการณ์เหล่านี้ เรากลับมาติดอยู่กับปัญหาความรุนแรงในสังคม ปัญหาชายแดน ปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหาการเมือง สังคมไทยเองไม่ตื่นเต้นกับเรื่องภูมิปัญญาไทยของเรา ที่รักษาสังคมไทยของเราเอาไว้มาได้เป็นเวลานาน เราเดินตามแนวคิดและวิธีดำเนินชีวิตที่แตกต่างจากเราอย่างมาก
เราจมอยู่กับเรื่องที่งมงายไร้ค่าไม่ว่าจะวงการโหราศาตร์ที่เราทุกคนต่างก็รู้สึกและต้องเคยสัมผัส เป็นส่วนใหญ่แต่เราก็บอกว่างมงายไม่ใช่วิทยาศาสตร์ เราคัดแย้งในสังคมเองที่ส่วนใหญ่ยังเชื่อเรื่อง โชคลาภ หวย ไสยศาสตร์ ฯที่เราไม่มีแนวคิดที่จะจัดรวบรวม หมวดหมู่ มีการตรวจสอบและพัฒนาเพิ่มคุณภาพ ให้ความรู้ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ เรากับต่อต้านและทำให้เห็นถึงความโง่ที่ยังงมงาย แต่เราไม่ได้ทำให้เกิดความเข้าใจในความงมงายและเกิดความสนุกในความฉลาด
โหราศาตร์และศาสตร์แห่งการพยากรณ์เป็นสิ่งที่ใกล้ชิดคนไทยและมีอยู่จริงในสังคมของเรา เป็นสิ่งที่เราต้องกล้ายอมรับได้แล้วว่าบางครั้งมันก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง เราล้าหลังมากเกินกว่าที่จะผลิตนักจิตวิทยาที่มีภูมิความรู้เราขาดแคลนจิตแพทย์และเรามีสามัญสำนึกต่ออาชีพเหล่านี้ในแง่ลบมากกว่าบวกและเราก็กำลังวิ่งเข้าหาความสงบจากศาสนาที่เสื่อมลงแต่กลับเปลี่ยนเป็นลัทธิต่างๆมากมายเราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเพื่ออะไร
ทำไมเราไม่เพิ่มปัญญาด้วยการนำศาสนามาพัฒนาประเทศอย่างจริงๆจัง ให้คนรวมเป็นหนึ่งเดียวด้วยความบริสุทธและธรรม หรือธรรมชาติอย่างคนไทย ทำไมเราไม่เร่งส่งเสริมพัฒนาความรู้ในเรื่องโหราศาสตร์และทำไมเราไม่ให้ผู้ที่ศึกษาด้านนี้แพร่หลายในแนวทางที่อ้างความเชื่อทางศาสนาเพื่อให้มีหลักในการยึดเหนี่ยวจิตใจ
เราคงจะเอาวิทยาศาสตร์มาเปลี่ยบเทียบกับโหราศาสตร์ไม่ได้เพราะอารยธรรมของเราก้าวมาไกลมากจนวิทยาศาสตร์ได้ปกครองวิถีชีวิตของเราเกือบ95% แล้วที่เหลือคือความเชื่อและอารมณ์ความรู้สึกนึกคิดของตัวเราเองแต่เราก็กำลังจะถูกหล่อหลอมให้มีความ เชื่อเดียวกันที่ว่าวิทยาศาสตร์ต้องพิสูจน์ได้ ซึ่งผมคิดว่านั้นเป็นสิ่งที่ผิดและจะยิ่ง ทำให้สถานการณ์แย่ลงมาก
ในขณะที่ต่างประเทศกำลังตื่นเต้นกับความเป็นธรรมชาติ เราเริ่มมาพัฒนาพืชสมุนไพรในประเทศของเรา แต่เราก็ต่อต้านกันว่าไม่มีผลการทดลองที่เป็นวิทยาศาตร์มารองรับแทนที่เราจะเริ่มพัฒนาสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางยาและเครื่องใช้ที่เป็นสมุนไพรธรรมชาติที่เป็นภูมิปัญหาที่เราไม่ต้องไปซื้อหาจากต่างประเทศและเร่งผลิตยาและของใช้ในส่วนของตลาดธรรมชาตินี้ให้ชาวโลกยอมรับ
ปัจจุบันเราก็ส่งประชาชนของเราไปเรียนภาษา ไปแสวงหาความรู้ตามหลังประเทศต่างๆที่เค้าพัฒนาจนมีความเจริญก้าวหน้าไปไกลแล้ว ความรู้ที่เค้าเผยแพร่คือความรู้ที่เค้าต้องการให้คนรู้ได้ใช้ได้เดินตามสิ่งที่เค้ารู้ โดยเฉพาะเป็นการเรียนรู้เพื่อทำตาม ไม่ใช่การเรียนรู้เพื่อนำกลับมาปรับใช้กับประเทศไทยดั่งเช่นบรรพบุรุษของเราในอดีตที่จำต้องเรียนรู้วิทยาศาตร์ การผลิตเรือ การผลิตอาวุธ และเดินตามความเจริญในด้านต่างๆไม่ว่าจะศิลปะฯเพื่อรักษาเอกราชของชาติเราเอาไว้ซึ่งทั้งหมด นั้นคือการเดินทางตามแบบอย่างของต่างๆประเทศ
แล้ววันนี้ความฝันที่จะเป็นศูนย์กลางอาหารโลกของเราก็ยังไม่สมหวังอย่างที่ตั้งใจ แต่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะต่างประเทศเขาเริ่มโคลนนิ่งเขาเริ่มผลิตพืชพันธ์ใหม่ๆที่จำต้องอาศัยเมล็ดพืชจากเขามาปลูกและเขาก็กำหนดขั้นตอนกระบวนการผลิตด้วยรูปแบบของกฎหมายทันสมัยเช่นระบบ ISO ต่างๆเพื่อวางมาตราฐานให้เราเดินตาม
นั้นคือปัญหาในโลกแห่งความจริงที่เราคนไทยทุกคนจะต้องช่วยกันรักษาสิ่งดีๆที่คงความสภาพของสังคมไทยและพัฒนาเปิดกว้างภูมิความรู้แบบไทยๆให้คนไทยได้ภูมิใจและอยู่ในสังคมไทยแบบความพอเพียง เพื่อเราวันที่เราจะเข้มแข็งก่อนที่จะพัฒนาเดินตามความเจริญของโลกในด้านอื่นๆให้เพียงพอกับคนไทยต่อไป









