จุดประสงค์
1.เพื่อเขียนความรู้สึกในการดำเนินชีวิตในฐานะนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี
2.เพื่อเขียนคำคม หรือ คำจำกัด ความหมาย ของสิ่งที่ได้สัมผัสในฐานะนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี
3.เพื่อแสดงความเป็นไปของนักพยากรณ์ไพ่ยิปซีที่มีเป้าหมายในการเดินทางพยากรณ์ทั่วโลก
4.เพื่อแสดงความคิดเห็นในฐานะนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี
Tarot Mind By Khate Horasilp ความในใจไพ่ยิปซี โดย อ.เขตต์ โหรศิลป์
โดย อ.เขตต์ โหรศิลป์
บทสัมภาษณ์ เปิดตัวนักพยากรณ์
สวัสดีค่ะ! อ.จริงแล้วคงไม่ต้องแนะนำตัว เพราะเรารู้จักกันดีอยู่แล้ว กับ อ.สหัชญาณ (เขตต์) โหรศิลป์ หรือ อ.เขตต์ โหรศิลป์ ขอเรา เอาเป็นว่า อ.ช่วยแนะนำผลงานเขียนอ. ดีกว่าค่ะ และศาสตร์ที่ อ.ใช้เรียกว่า “ไพ่ทาโรต์ กับไพ่ยิปซีนี้ เหมือนหรือต่างกันอย่างไรค่ะ?
- สวัสดีครับ ตอนนี้ผมได้ร่วมงานกับทางทีมงานสภาโหราจารย์และทีมงานห้องโหรดวงเศรษฐีและโหราจารย์ ผมได้มีผลงานเขียนบทความพิเศษเป็นประจำในหนังสือโหราจารย์ ชื่อ “ไพ่ทาโรต์ทูตแห่งจิตวิญญาณ”
- และผลงานเขียนแบบใหม่ที่ผมตั้งใจสร้างสรรค์นั้น คือ การใช้ไพ่ทาโรต์พยากรณ์พยากรณ์วิเคราะห์ พฤฒิกรรมและลายเซ็นของบุคคล เป็นบทความประจำในหนังสือ ดวงเศรษฐีชื่อ “ขีดขีดเขียนๆกับไพ่ทาโรต์” ก็ฝากผู้ที่รักและสนใจในศาสตร์แห่งการพยากรณ์ด้วยไ่ทาโรต์คอยติดตามนะครับ และผลงานอีกอย่างที่ผมภูมิใจคือ มีส่วนร่วมในการเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบรายการวิทยุ “โลกปี 2000 กับโหราจารย์” ครับ
- ในส่วนของคำว่า “ไพ่ทาโรต์” กับ “ไพ่ยิปซี” นั้นแตกต่างกันจากชื่อที่เรียก เพราะ ไพ่ “The Cards” ก็คือ ไพ่ที่ใช่เล่นเกมต่างๆ หรือใช้พยากรณ์ไม่ว่าจะเป็นไพ่ป๊อก ไพ่นกกระจอก ไพ่จีน ไพ่อียิปต์ ส่วนคำว่า ยิปซี “A Gypsy” เป็นชื่อที่มาอของชนเผ่าเผ่าหนึ่งที่เดินทางเร่ร่อนไปทั่วยุโรป โดยไม่มีหลักแหล่งแ่นอน มีอาชีพหลักส่วนใหญ่ คือ เลี้ยงมา ขายม้า และเป็นเผ่าที่เชื่อว่ามีการหยั่งรู้สูงมาก
- ส่วนที่เหมือนกันก็คือ “ไพ่ทาโรต์ (The Tarot Cards)” เป็น ชื่อเฉพาะไพ่ที่มีหนึ่งสำรับ 78 ใบ และเป็นไพ่ที่ใช้เพื่อการพยากรณ์ หรือทำนายโชคชะตา โดยเฉพาะเป็นไพ่ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ในปัจจุบันมีหลายประเทศ มีหลากหลายแบบไพ่มากมาย หลายรูปแบบ แต่เรียกตามหลักสากลทั่วโลกยอมรับว่า “ไพ่ทาโรต์” ครับ
อาจารย์ค่ะ ในฐานะที่ อ.เป็นผู้สอนไพ่ทาโรต์ อ.มีหลักการและมาตรฐานของไพ่ทาโรต์พยากรณ์อะไรบ้างค่ะ แล้ววิธีการพยากรณ์ของ อ.แตกต่างจากการพยากรณ์ทั่วๆไปอย่างไรบ้าง ค่ะ?
- ผมได้มีโอกาสพยากรณ์ไพ่ให้กับบุคคลต่างๆทำให้ผมรู้สึกรักและผูกพันระหว่างผมกับผู้รับการพยากรณ์ ทำให้ผมได้เรียนรู้วิถีชีวิตมนุษย์ผ่านการอ่านไพ่และพัฒนากลายมาเป็น “จิตสัมผัส” ที่คล้ายกับนิมิต หรือภาพที่ปรากฎซ้อนอยู่ในหัวสมอง ที่คนทั่วไปเข้าใจว่า คือตาที่สาม
- เพราะการอ่านไพ่และจิตนาการมากๆจะทำให้เราเริ่มคิดและสร้างมโนภาพได้ไกลเกินกว่าเรื่องราวที่แค่ปรากฎบนหน้าไพ่ บางครั้งอยากพูด อยากทำนายทั้งที่ไม่ปรากฎในไพ่ ที่บางครั้งกลับมีความแม่นยำเสียด้วย
- แต่ในที่สุด ผมก็คิดว่าผมต้องการจะเป็นเพียงผู้อ่านไพ่ที่ดี มีคุณธรรม แสวงหาความรอบรุ้ตลอดเวลา มีเมตตาธรรม มีจิตใจที่เป็นกลางให้มากที่สุด และจะใช้ประสบการณ์จากการเดินทาง การรับฟังเรื่องราวต่างๆมากมาย พร้อมกับ “สัมผัสพิเศษ” ที่มีการให้คำแนะนำและช่วยเหลือสำหรับผู้คนทั่วไปที่กำลังขาดกำลังใจและแนวทางในการดำเนินชีวิต
คำถามที่วว่า “มนุษย์เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเราหรือว่าชะตาชีวิตของเราถูกกำหนดมาจากเบื้องบน ค่ะ?”
- คำว่าเบื้องบนหมายถึง “พระเจ้า” หรือ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” “เทพ” ฯ หรือเปล่า เพราะเจ้าในศาสนาอาจจะเป็นผู้สร้างมนุษย์ ควบคุม ดูแล หรือมีอิทธิพลกับเราก็จริง แต่ผมเชื่อว่า เมื่อพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาไม่ว่าจะด้วยวิธีใด พระเจ้าได้ให้หัวใจเพื่อสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกายเป็นตัวแทนความรักมนุษย์ พระเจ้าสร้างประสาทความรับรู้ต่างๆไม่ว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย และสิ่งสุดท้ายที่พระเจ้าทรงประทานให้มนุษย์ คือ “สมอง” สมองที่ประมวลผล ควบคุม และแปลสัญญาณต่างๆที่ผ่านเข้ามาจากระบบสัมผัสทั้ง 5 ของเรา
- ผมเชื่อว่าพระเจ้าต้องการให้เราเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเราเองอย่างแน่นอน เพียงแต่พระองค์ทรงเป็นผู้กำหมดให้บุคคลมีหน้าที่แตกต่างกันเพื่อสร้างและพัฒนาสังคมของเราเอง ผมคิดว่าเมื่อพระเจ้ามอบอิสระให้กับเราที่จะคิด เราก็ควรเป็นผู้เลือกเดิน ดำเนินชีวิตด้วยตัวเราเอง โดยอาศัยประสบการณ์และการเลี้ยงดู ซึ่งอาจทำให้เรามีพื้นฐานที่แตกต่างกันครับ
อ.คิดว่า ถ้าคนเรามีความเชื่อในศาสตร์แห่งการพยากรณ์ แล้ว จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวเขาเองหรือทำให้ความคิดเห็นเขาเปลี่ยนไปหรือไม่?
- ผมเชื่อว่า “ความเชื่อ” คือ การเริ่มต้นสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ถ้ามนุษย์ไม่มีความเชื่อมนุษย์ก็จะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เลย ถ้ามนุษย์ไม่เชื่อว่าโลกกลมมนุษย์ก็จะไม่สังเกตและหาเหตุผลมาพิสูจน์ว่าโลกกลม ไม่เชื่อ ไม่ค้นหาความจริง เพราะเมื่อมนุษย์ไม่เชื่อมนุษย์ก็จะไม่คิด
- เมื่อมนุษย์เชื่อมนุษย์ก็จะเริ่มใช้ปัญญาในการคิด ความเชื่อจึงมีผลต่อความเชื่อมั่น และเมื่อความเชื่อเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยน
- เมื่อเกิดความเชื่อ มนุษย์ก็จะมีความศรัทธาและเริ่มสร้างกฎมีการกำหนดระเบียบภายใต้ความศรัทธา การพยากรณ์เมื่อคุณเชื่อมั่นในคำตอบที่ได้รับจากการทำนายก็ย่อมจะมีผลต่อความเชื่อของคุณ แต่ถ้าคุณได้คิดหาเหตุผลแล้วว่าคำตอบนั้นน่าเชื่อ มันก็จะไม่ทำลายความเชื่อมั่นใจตัวเอง แต่กลับจะไปเสริมความเชื่อมั่นในตัวคุณเพิ่มมากขึ้น ส่วนคุณจะเปลี่ยนแปลงตามความเชื่อหรือไม่ตัวคุณเองจะเป็นผู้เปลี่ยนมัน
- ในบริษัทก็ต้องมีที่ปรึกษาทางกฎหมาย ที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อ่วยแนะนำการดำเนินกิจการของคุณ แต่ตัวคุณเองก็เป็นผู้เลือกที่จะใช้มุมมองและแง่คิด ความเชื่อที่เป็นประโยชน์ให้กับคุณเอง การตัดสินใจสุดท้ายย่อมเป็นของเราเอง
- ถ้าที่ปรึกษาไม่ดีคุณก็สามารถเปลี่ยนที่ปรึกษา ถ้าเขาให้คำปรึกษาในสายอาชีพอย่างไม่มีอคติแล้วไม่ว่าจะเกิดผลอย่างไร ความเชื่อ การตัดสินใจก็ขึ้นอยู่คุณเอง และในชีวิตจริงถ้าคุณเชื่อแต่สิ่งเดิมๆและคุณเรียกว่าความเชื่อมั่น โดยไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงไม่รับฟังความคิดเห็นและความเชื่อใหม่ๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องขอคำปรึกษาจากใคร
ในฐานะที่อ.เป็นนักพยากรณ์ฅนหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญอย่างสูงในศาสตร์แห่งการพยากรณ์ อ.มีแง่คิด มุมมองเรื่องใดจะฝากไว้ให้ผู้อ่านบ้านไหมค่ะ?
- สิ่งที่อยากฝากไว้ คือ ในเมื่อสมองคุณยังสามารถคิดได้ และหัวใจคุณยังเต้นอยู่เป็นจัวหวะ ร่างกายคุณยังแรงสมวัย เมือ่ธรรมชาติเอื้อต่อการดำรงค์อยู่ พระอาทิตย์ยังให้แสงสว่างกับการดำเนินชีวิต พระจันทร์ยังไม่เคยหนีห่างจากโลก
- ดังนั้น คุณก็ควรจะอยู่ให้ได้ด้วยตัวตัวคุณเอง แล้ววันใดที่คุณต้องการเพื่อน คุณต้องการรู้ในสิ่งที่คุณขาด ต้องการเข้รใจชีวิตตัวเองและวิธีทางในการดำเนินชีวิตต่อไปของคุณ และเมื่อหัวใจคุณเปิดกว้าง คุณก็ลองมาพบมาพูดคุยมาร่วมกันหาคำตอบและความหมายที่แท้จริงให้กับชีวิต แล้วพบกันในโลกแห่งการพยากรณ์ครับ
เขตต์ โหรศิลป์
ข้อมูลจาก นิตยสารรายปักษ์ ดวงเศรษฐี ปีที่ 14 ฉบับที่ 366
www.thailandtarot.com By Khate Horasilp: สถาบันโหรศิลป์ ศาสตร์และศิลป์แห่งโลกพยากรณ์ โดย เขตต์ โหรศิลป์: thailandtarot@hotmail.com



